DIARY

Blog ของคนรัก ARSENAL


ประวัติ
อาร์เซน่อล เริ่มต้นก่อตั้งในปี 1886 โดยคนงานของโรงงานผลิตอาวุธ วูลิช อาร์เซน่อล ในย่านชานกรุง ลอนดอน โดยลงแข่งในลีกสมัครเล่น Dial Squre สำหรับแมตซ์การแข่งขันแรกของสโมสรเป็นการลงสนามพบกับอีสเทิร์น วอเดอเรอร์ และสามารถเอาชนะไปได้อย่างท่วมท้น 6-0 ในวันที่ 11 ธันวาคม 1886 และต่อมาได้ เปลี่ยนชื่อสโมสรมาเป็น "รอยัล อาร์เซน่อล"

          ในปี 1891 ไปเปลี่ยนมาจากทีมสมัครเล่นมาเป็นทีมอาชีพแบบเต็มตัว และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "วูลิช อาร์เซน่อล" และได้เข้าร่วมการแข่งขันในลีกในปี 1893 และได้ย้ายมาใช้สนามไฮบิวรี่ ในปี 1913 ต่อมาในปี 1914 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น ซึ่งในปีนั้นอาร์เซน่อลอยู่ในดิวิชั่น 2 และจบอันดับที่ 5 ในลีก หลังจากสงคราม โลกสงบลง ฟุตบอลลีกก็กลับมาแข่งขันอีกครั้งในปี 1919 ซึ่งมีมติให้มีการเพิ่มทีมจาก 20 ทีมมาเป็น 22 ทีม ทำให้ต้องนำทีมจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาเพิ่มอีก 2 ทีม ทำให้อาร์เซน่อลได้รับอนุเคราะห์ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาเฉิดฉายในดิวิชั่น 1 แบบส้มหล่น

          เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ได้เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรในปี 1925 และในปี 1930 อาร์เซน่อลก็สามารถคว้า แชมป์รายการแรกได้สำเร็จด้วยการเอาชนะฮัดเดิ้ลฟิลด์ ทาวน์ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพมาครอบครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นความสำเร็จก็วิ่งชนอาร์เซน่อลอย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าแชมป์ลี กมาครองได้ในปี 1933 และ 1935 หลังจากนั้น เฮอร์เบิร์ต แชปแมน เจ้าของสโมสรอาร์เซน่อลก็เสียชีวิตลง

          หลังจากนั้น จอร์จ อลิสัน ก็มากลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของอาร์เซน่อล และทีมก็สามารถคว้าแชมป์ลีกและ แชมป์เอฟเอ คัพ มาได้อย่างละหนึ่งสมัย ในปี 1938 และ 1936 ตามลำดับ ในยุคนั้นอาร์เซน่อลมีซูเปอร์สตาร์ดังๆ หลายคนไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ เจมส์, คลิฟฟ์ บาสติน, เดวิล แจ๊คและจอร์จ เมล

           หลังสงครามโลกครั้งที่สองอาร์เซน่อลได้ ทอม วิสเทกเกอร์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมและพาทีมประสบความ สำเร็จอย่างมากมาย ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 1947/48 และ 1952/53 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1950 และได้รองแชมป์ในปี 1952 เข้าสู่ยุคซิกตี้ อาร์เซน่อลก็สามารถคว้าแชมป์สโมสรยุโรปรายการแรกได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะอันเดอร์เลช ทีมจากเบลเยี่ยมไป 4-3 คว้าแชมป์แฟร์ คัพ ไปได้สำเร็จ

          เข้าสู่ยุคของ "บิ๊กจอร์จ" จอร์จ แกรมแฮม ที่เข้ามาสร้างทีมที่ได้รับการขนานนามว่า "ฺบอริ่ง อาร์เซน่อล" ซึ่งมาจากการสร้างแบ๊คโฟร์ที่แข็งแกร่งเน้นเกมรับ ที่อาจจะดูน่าเบื่อแต่บิ๊กจอร์จก็นำความสำเร็จเข้าสู่อาร์เซน่อล ไม่น้อยทีเดียว ด้วยการพาทีมแซงชนะลิเวอร์พูลในนัดสุดท้ายของฤดูกาล คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1989/1990 ไปแบบแสบทรวง นอกจากนี้บิ๊กจอร์จยังพาอาร์เซน่อลคว้ามแชมป์คัพ วินเนอร์คัพ มาครองได้สำเร็จด้วยการเอา ชนะปาร์ม่า ทีมจากอิตาลีไป 1-0 ได้ประตูจากอลัน สมิธ ดาวยิงตัวหลักของทีม และเกือบจากพาทีมคว้าแชมป์ คัพวินเนอร์ คัพ สองสมัยติดแต่ถูกลูกยิงผีจำยัดของ นาฮิม ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ซาราโกซ่าเอาชนะอาร์เซน่อลไปได้ 1-0

          หลังหมดยุคบิ๊กจอร์จ ก็เข้าสู่ยุคของอาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเล่นของอาร์เซน่อลจาก บอริ่ง ฟุตบอล กลายมาเป็นฟุตบอลที่สวยงามและสนุกสนาน พร้อมพาความสำเร็จเข้ามาสู่สโมสรอย่างมากมาย ด้วยการคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยและแชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย

         ในปี 2006 อาร์เซน่อลได้ย้ายจากสนามไฮบิวรี่ เข้าสู่บ้านหลังใหม่และใหญ่กว่าเดิม เพื่อรองรับแฟนบอล ที่เพิ่มขึ้น ด้วยการย้ายมาใช้สนามเอมิเรตย์ สเตเดี้ยม และทุบสนามไฮบิวรี่เดิมทิ้ง เพื่อสร้างอ

พาร์ทเม้นท์
______________________________________________________________________


ประวัติแชมป์ถ้วยต่างๆ
  League Champion (13 สมัย)
  2004, 2002, 1998, 1991, 1989, 1971, 1953, 1948, 1938, 1935, 1934, 1933, 1931
  FA CUP (10 สมัย)
  2005, 2003, 2002, 1998, 1993, 1979, 1971, 1950, 1936, 1930
 Carling Cup (2 สมัย)
  1993, 1987
  Community Shield (11+1 ครองแชมป์ร่วมกัน)
  2004, 2002, 1999, 1998, 1991, 1953, 1948, 1938, 1934, 1933, 1931, 1930
  European Cup Winners Cup Winners (1 สมัย)
  1994









_____________________________________
รายชื่อนักเตะทั้งหมด

ผู้รักษาประตู
1 มานูเอล อัลมูเนีย สเปน
21 ลูคาส ฟาเบียงสกี้ โปแลนด์
24 วิโต้ มานโนเน่ อิตาลี
53
โวจเซช เซอร์นี่ย์
โปแลนด์
กองหลัง
3 บาคารี่ ซานย่า ฝรั่งเศส
5 โทมัส แฟร์มาเล่น เบลเยี่ยม
6
ฟิลิปป์ เซ็นเดอร์รอส
สวิสเซอร์แลนด์
10
วิลเลี่ยม กัลลาส
ฝรั่งเศส
18
มากาเอล ซิลแวสตร์
ฝรั่งเศส
20
โยฮาน โชรู
ฝรั่งเศส
22
กาเอล กลิชี่
ฝรั่งเศส
28
เคียแรก กิบส์
อังกฤษ
30
อาร์มองต์ ตราโอเร่
ฝรั่งเศส
31
โซล แคมป์แบลล์
อังกฤษ
กองกลาง
2
อาบู ดิยาบี้
ฝรั่งเศส
4
ฟราน เชส ฟาเบรกาส
สเปน
7
โทมัส โรซิกกี้
สาธารณรัฐเช็ก
8
ซามีร์ นาสรี่
ฝรั่งเศส
15
เดนิลสัน
บราซิล
16
อารอน แรมซี่ย์
เวลส์
17
อเล็ก ซง
โตโก
23
อังเดร อาร์ชาวิน
รัสเซีย
19
แจ็ค วิลเชียร์
อังกฤษ
27
เอ็มมานูเอล เอบูเอ้
ไอวอรี่ โคสท์
32
ฟราน มาริด้า
สเปน
กองหน้า
9
เอดูอาร์โด้
โครเอเชีย
11
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์
ฮอลแลนด์
12
คาลอส เวล่า
แม็กซิโก
14
ธีโอ วัลคอตต์
อังกฤษ
52
นิคลาส เบนท์เนอร์
เดนมาร์ค